อย่าให้โรคกระดูกพรุนคุกคาม |
แคลเซียมมีมากในสารอาหารประเภทใด
และมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างไร?
คนส่วนใหญ่ทราบคำตอบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าแคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อการเสริม
สร้าง กระดูกและฟัน
และเป็นส่วนประกอบที่มีมากที่สุดในกระดูกแลฟัน
หากร่างกายได้รับแคลเซียมจากอาหารไม่เพียงพอ
หรือพูดง่ายๆก็คือ
"ขาดแคลเซียม"
ร่างกายจะดึงแคลเซียมจากกระดูกมาใช้ก็จะก่อให้เกิดอาการกระดูกพรุนตามมา
แท้จริงแล้วประโยชน์ของแคลเซียมมีมากกว่าการเสริมสร้างกระดูกและฟัน
เพราะแคลเซียมยังมีส่วนช่วยในการทำงานของเซลระบบประสาทและสมอง
การทำงานของกล้ามเนื้อให้เป็นปกติ
ช่วยในการแข็งตัวของเลือด
รวมถึงการช่วยลดปัจจัยเสียงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงด้วย
ตามหลักโภชนาการที่ถูกต้องนั้นได้ระบุไว้ว่า
ปกติร่างกายของคนเรา
(ผู้ใหญ่)
ต้องการแคลเซียมประมาณวันละ
800-1,200
มิลลิกรัม
ขึ้นอยู่กับอายุ
เพศ
และสภาวะของร่างกาย
แหล่งสำคัญของแคลเซียมก็คือประเภทนมและผลิตภัณฑ์จากนม
โดยในนม 1
แก้ว หรือ 1
กล่อง (250ซีซี)
จะให้แคลเซียมสูงถึง
300
มิลลิกรัม
ที่สำคัญแคลเซียมจากนม
นับเป็นแคลเซียมที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุด
นอกจากนั้นแคลเซียมก็ยังมีมากในปลาเล็กปลาน้อยที่สามารถรับประทานได้ทั้งกระดูก
เช่น
ปลาไส้ตัน
ปลาแก้ว
กุ้งแห้ง
กุ้งฝอย
ฯลฯ
ส่วนในผัก
ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
เช่น
เต้าหู้
และผักใบเขียวก็มีแคลเซียมอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
แต่เนื่องจากในผักใบเขียวบางชนิดมีสารออกซาเลตสูง
อาจรบกวนการดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย
จึงอาจทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมจากผักน้อยลง
ส่วนผักบางชนิด
เช่น
ผักกวางตุ้ง
คะน้า
บร็อคโคลี
และผักกาดเขียว
มีแคลเซียมสูงและร่างกายดูดซึมได้ดี
แม้ในอาหารหลากหลายประเภทที่เรารับประทานประจำวันจะมีแคลเซียม
แต่การรับประทานในแต่ละวันนั้นร่างกายอาจได้รับแคลเซียมที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ
ทางกองโภชนาการกรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข
จึงได้กำหนดข้อแนะนำให้คนไทยบริโภคนมอย่างน้อยวันละ
1-2 แก้ว
ซึ่งนอกจากจะให้แคลเซียมแล้ว
ยังให้สารอาหารอื่นๆ
เช่น
วิตามินเอ
วิตามินดี
ฟอสฟอรัส
เป็นต้น
แต่ที่คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังประสบกับปัญหาขาดแคลเซียม
เนื่องจากคนไทยไม่คุ้นเคยกับการบริโภคนมและรับประทาานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพียงพอ
จึงทำให้ประชากรคนไทยยังต้องประสบกับภาวะโรคกระดูกพรุนอยู่
โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อยุ่ในวัยคุณภาพและวัยสูงอายุ
อาการขาดแคลเซียมไม่ได้เกิดขึ้นทันทีที่ร่างกายขาดแคลเซียม
แต่จะค่อยๆ
แสดงออกมาทีละน้อย
โดยอาการแรกเริ่มของการขาดแคลเซียมที่สังเกตได้
ก็คือ
เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อและเป็นตะคริวอันเนื่องมาจากการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ผิดปกติ
และเมื่อขาดแคลเซียมมากขึ้น
ร่างกายก็จะดึงเอาแคลเซียมจากกระดูกมาใช้
เมื่อนั้นแหละที่
"โรคกระดูกพรุน"
จะมาเยือน
การดูแลตนเองให้ห่างใกลจากโรคกระดุกพรุน
เราจำเป็นต้องเริ่มสะสมแคลเซียมให้กับร่างกายตั้งแต่เด็กๆ
และแม้ในวัยผู้ใหญ่ก็ยังไม่สายเกินไป
ถ้าจะสะสมแคลเซียม
โดยพยายามดื่มนมอย่งวันละ
1-2 แก้ว
สำหรับผู้ดื่มนมไม่ได้
เพราะมีน้ำย่อยแลคเตสซึ่งย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมน้อยลง
ควรเริ่มด้วยการดื่มนมทีละน้อย
โดยเริ่มจาก
1/3-1/2 แก้ว
หรืออาจดื่มผสมกับเครื่องดื่มรสช็อกโกแลต
และอีกทางเลือกหนึ่งก็คืออาจรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมแทน
ซึ่งปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์จากนมมีหลากหลาายรูปแบบ
เช่น
โยเกิร์ต
ชีส
หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแคลเซียมจากนม
เช่น
เครื่องดื่มมอลต์สกัดรสช็อกโกแลต
เป็นต้น
สำหรับการเสริมแคลเซียมนั้นควรเลือกเป็นแคลเซียมจากธรรมชาติ
เช่น
จากนมเป็นอันดับแรกก่อนที่จะพิจารณาแคลเซียมสังเคราะห์
ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
ที่จะเข้าไปยับยั้งการดูดแคลเซียมด้วย
เช่น
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
บุหรี่
รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงและอาหารที่มีเกลือสูง
เป็นต้น
ทราบถึงความสำคัญและประโยชน์แล้ว
ก็ถึงเวลาที่จะต้องเลือกสรรอาหารแคลเซียมให้กับร่างกายอย่างเพียงพอเสียที
|