คุณอาจจะส่ายหน้าด้วยความท้อใจกับคำว่า
"ลดความอ้วน"
เพราะว่าคุณมิได้นิ่งนอนใจที่จะแบกน้ำหนักและหุ่นอันเกินอวบของคุณมาจนถึงวันนี้
คุณอาจจะเคยพยายามทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการจะกำจัดไขมัน
และน้ำหนักตัวให้หายหดหมดไปได้
วิธีต่างๆ
นานาที่คนอ้วน
ทดลองดูแล้วนั้นก็มีอาทิเช่น
-
พึ่งยา
การใช้ยาลดความอ้วนนั้น
ปัจจุบันมีการโฆษณากันอย่างแพร่หลาย
แต่ไม่ได้ให้ผลดีอันใดต่อร่างกายเลย
แถมจะยังมีอันตรายต่อตัวผู้กินอีกด้วย
เพราะยาเหล่านั้นมักจะมีผลข้างเคียงที่จะทำให้สุขภาพจิตและระบบประสาทถูกบั่นทอนไปไม่น้อยเลย
และส่วนมากจะมีฤทธิ์ในทางขับปัสสาวะให้น้ำหนักตัวลด
แต่ไขมันไม่ได้ลดไปด้วย
ทำให้ร่างกายขาดน้ำอีกต่างหากและเมื่อร่างกายขาดน้ำ
สมองก็พลอยขาดออกซิเจนไปด้วย
เมื่อนั้นแหละอันตรายจะเกิดขึ้นอย่างยากแก้ไขเชียวล่ะ
-
เคี้ยวอย่างอร่อย
แต่คายทิ้ง
บางท่านเล่นไม่ยาก
ด้วยการกินอาหารจานโปรดตามใจรัวเองแล้วก็คายทิ้ง
เพราะไม่กลืนอาหารลงท้องแล้วความอ้วนจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ก็คงจะได้ผลอยู่บ้าง
แต่คุณคงใช้วิธีนี้ตลอดทุกื้อทุกวันคงเป็นไปไม่ได้หรอกนะ
-
กินให้อร่อย
แล้วค่อยอาเจียน
มีหลายท่านใช้วิธีกินเข้าไปไม่จำกัด
แล้วก็เอานิ้วล้วงคอให้อาเจียนออกมาให้หมด
แต่ทว่าคุณก็คงใช้วิธีนี้ทุกวันไม่ได้เช่นกัน
-
ดูดไขมัน
คุณผู้หญิงมักจะพึ่งวิธีนี้
แต่ทว่าการเจาะร่างกายแล้วดูดเอาไขมันออกมานั้น
จะม่ผลต่อผิวหนังคือความเหี่ยวย่นของบริเวณนั้น
และค่าใช้จ่ายการดูดไขมันเฉพาะที่ก็ตกในราคาหลายหมื่นบาท
หากจะดูดให้ครบทั่วทุกส่วนก็คงจะใช้เงินเป็นแสนๆ
หากคุณเป็นคนรวยอาจจะไม่คิดเรื่องค่าใช้จ่าย
แต่ก้ขอให้คิดถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นบ้างก็ดี
-
จ้องกระดาษสีชมพู
นี่เป็นเทคนิคทางจิตวิทยาเป็นผลงานของมหาวิทยาลัยจอห์น
ฮอบกิ้นส์
ซึ่งให้คนอ้วนจ้องกระดาษสีชมพู
ขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส
3
นิ้วครึ่งคูณ
3
นิ้วครึ่ง
นั่งจ้องกระดาษนาน
5
นาทีเท่านั้น
คุณก็จะหายหิวและรุ้สึกสงบนิ่ง
ปรากฏผลในการทดลองมาแล้วว่าได้ผล
ทำให้น้ำหนักตัวลดลง
แต่ทว่ายังมีคนอ้วนอีกไม่น้อยที่บอกลาวิธีนี้
เพราะจ้องนานเท่าไหร่ใจก็ยังอยากกินอาหารเหมือนเดิม !
-
ฝังเข็ม
นี่เป็นวิธีที่กำลังนิยมมากพอสมควร
ไม่เจ็บปวดและไม่ค่อยมีความเสี่ยงต่ออันตรายนัก
แต่ทว่าต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอทนเชียวล่ะ
การฝังเข็มที่ใบหูนี้ช่วยให้กระเพาะอาหารไม่หดตัวนัก
ความหิวก็จะลดลง
แต่ควรระวังการติดเชื้อเท่านั้นแหละ
-
ครีมนวดละลายไขมัน
วิธีนี้ใช้เงินมากมายแต่ก็ยากที่จะเห็นผล
ครีมนวดบางชนิด
หลอดเล็กนิดเดียวซึ่งต้องนวดกันถึง
10 หลอดหรือ 10
กระปุก
แต่ก็ไม่อาจวัดผลได้ว่าไขมันหดหายไปแล้วมากน้อยเท่าใด
ความจริงครีมเหล่านั้นก็มีสารละลายไขมันที่จะซึมซาบผ่านผิวไปได้จริงเช่นกัน
เพียงแต่ว่า
ไขมันบางชนิดนั้นก็ยากที่จะละลายไป
นอกจากการเผาผลาญโดยตรงของวิธีออกกำลังกายเท่านั้น !
หลายท่านคงจะเคยพบกับปัญหาที่ว่า
บางครั้งก็ลดน้ำหนักไปได้
2-3 กิโลแล้ว
แต่ทว่าเผลอแผล็บเดียว
ความอ้วนก็มาเยือนอีก
และมาพร้อมกับน้ำหนักหลายกิโลกรัมซะด้วยซี
ขอให้คุณมาทำความเข้าใจกับอาหารทั้ง
5
หมู่ให้ชัดเจนอีกครั้งหลังจากที่เราได้เรียนรู้กันมาแล้วในชั้นเรียน
เพื่อที่คุณจะได้เห็นภาพชัดขึ้นว่าร่างกายคนเราต้องการพลังงานจากอาหารมากน้อยอย่างไรบ้าง
-
คาร์โบไฮเดรต
ให้พลังงานแก่ร่างกาย
แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้แรงงานมากในการทำงานก็ไม่จำเป็นต้องกินคาร์โบไฮเดรตมาก
"แต่"
ก็ไม่ควร
"งด"
คาร์โบไฮเดรตอย่างที่คนลดน้ำหนักหลายคนเข้าใจว่าคาร์โบไฮเดรตจะทำให้อ้วน
เพราะคาร์โบไฮเดรตให้พลังงานทำให้อิ่ม
และระบบขับถ่ายไม่ย่ำแย่เสียหายไปและคาร์โบไฮเดรตก็มีไฟเบอร์
หรือเส้นใยมากพอควรซึ่งมีผลดีต่อการขับถ่าย
ดังนั้น
คนลดความอ้วนควรกินข้าว
มากกว่าที่จะอดข้าวแล้วไปกินกล้วยหรือของว่างอย่างอื่น
ซึ่งมีแต่จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
-
โปรตีน
แหล่งของโปรตีนก็คือเนื้อสัตว์ต่างๆ
ถั่วต่างๆ
ซึ่งโปรตีนนี้เองที่จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
ดังนั้นคนเราไม่ควรขาดโปรตีน
แต่ทว่าคนอ้วนควรเลือกอาหารโปรตีน
อย่างเช่น
เลือกกินปลา
ไก่ (ไม่เอาหนัง)
และควรหลีกเลี่ยง
เนื้อวัว
เนื้อหมู
ซึ่งมีไขมันปนอยู่ด้วยไม่น้อยเลย
-
ไขมัน
ศัตรูตัวร้ายของคนอ้วน
อาหารที่ทอดและผัดทุกชนิดนั้นล้วนนำไขมันมาให้คุณทั้งนั้น
ดังนั้นคุณควรกินอาหารที่นึ่งหรือย่างก็คงจะปลอดภัยกว่าแน่
หากอยากให้ร่างกายได้คุณค่าของไขมมันบ้างก็ควรกินนมที่พร่องไขมันบ้างก็ใช้ได้แล้ว
-
วิตามิน
คุณไม่จำเป็นต้องกินวิตามินชนิดเม็ดเสริมให้ร่างกาย
เพราะถ้าคุณกินอาหารครบทั้ง
5
หมู่ก็สมบูรณ์พอเพียงแล้ว
เว้นแต่ว่าแพทย์จะสั่งเท่านั้น
-
เกลือแร่
เซลล์ต่างๆ
ในร่างกายของคนเราต้องการเกลือแร่มาช่วยทำให้ระบบต่างๆ
ทำงานได้เป็นปกติแลมีประสิทธิภาพ
คนอ้วนก็ไม่ต้องงดเกลือแร่
เพราะเกลือแร่ไม่ได้ทำให้คุณอ้วน
มีแต่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงดียิ่งขึ้น
-
น้ำ
นอกจากอาหาร
5 หมู่แล้ว
ร่างกายของคุณยังต้องการ
"น้ำ"
เป็นที่สุด
ดังนั้นคุณไม่ควร
"อด"
น้ำเพราะร่างกายคุณสามารถขับน้ำออกมาได้เองอยู่แล้ว
แต่ถ้าร่างกายขาดน้ำน่ะสิ
ระบบการทำงานภายในร่างกายจะปั่นป่วนมีปัญหาแน่นอน !
|