ปกติ
ทั้งเพศชายและเพศหญิง
ต่างมีฮอร์โมนเพศในร่างกาย
ทั้ง 2 ชนิด
คือ Androgen (ฮอร์โมนเพศชาย)
และ Progesterone (ฮอร์โมนเพศหญิง)
แต่อยู่ในระดับที่แตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับเพศ
วัย
กรรมพันธุ์
ในผู้หญิง
ที่มีระดับแอนโดรเจนสูง
มักมีลักษณะคล้ายเพศชาย
คือ
ผิวหน้ามัน
เป็นสิวได้ง่าย
ขนตามแขนขาดก
และอาจมีปัญหาผมร่วงได้ง่ายกว่าผู้หญิงที่มีระดับแอนโดรเจนต่ำกว่า
เมื่อเปรียบเทียบกัน
ในผู้ชาย
ที่มีระดับฮอร์โมน
Progeterone สูง
ก็จะมีลักษณะคล้ายเพศหญิง
คือ
ขนน้อย
ผิวหน้าแห้ง
ไม่ค่อยเป็นสิว
ดังนั้นในผู้ชายนะยะ!
บางคนจึงนิยมกินยาคุมกำเนิด
เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศหญิงชนิดนี้
ผลของฮอร์โมน
Androgen คือ
จะทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันเพิ่มมากขึ้นกว่าภาวะปกติ
ที่เรียกว่าภาวะ
Androgenization ได้แก่
เกิดสิว
ผิวมัน
และขนตก
ดังนั้นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
จึงต้องทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันลดลง
ซึ่งในกลุ่มยาคุมกำเนิดจะมีส่วนประกอบของฮอร์โมน
Progesterone
เฉพาะชนิดที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมน
Angrogen ได้
จึงสามารถทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันลดลงได้
แต่การทำงานดังกล่าวอาจรบกวน
การมีประจำเดือนในผู้หญิงได้
จึงได้มีการเสริมฮฮร์โมนเพศหญิงคือ
Estrogen
ร่วมด้วย
จึงอยู่ในลักษณะคล้ายยาคุมกำเนิด
คือบรรจุเป็นแผง
21เม็ด
ที่นิยมใช้ในคลินิกผิวหนังก็คือ
Dian-35
โดยมีกลไกการออกฤทธิ์
ดังในภาพประกอบด้านล่าง
ในผู้ชายไม่สามารถใช้ยาคุมกำเนิด
เช่น Dian-35
ในการรักษาสิว
หรือควบคุมความมันได้
เนื่องจากมีผลข้างเคียงทำให้
นมโตได้
การรับประทานยาในแผงแรก
คือ
ในวันที่1
ของรอบเดือน
(วันแรกที่มีประจำเดือน)
รับประทานติดต่อกันทุกวัน
และควรเป็นเวลาใกล้เคียงกัน
จนครบ 21 วัน
หลังจากนั้นหยุดยา
7 วัน
เพื่อให้มีประจำเดือนตามรอบเดือนปกติ
และเริ่มแผงใหม่หลังมีประจำเดือนวันแรกเช่นกัน
ผลการรักษาหลังรับประทานหมด
1 แผง
จะพบว่าความมันบนใบหน้าลดลง
และสิวเริ่มดีขึ้น
เมื่อรับประทานต่อ
2-3 แผง
และสิวมักจะหายสนิท
หลังรับประทานยา
ครบ 6-8 แผง
หรือ
ใช้เวลา 6-8
เดือน