แต่ละปีมีผู้หญิงเป็นจำนวนมากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้มีการป้องกัน จะด้วยความเต็มใจหรือไม่ก็ตาม แต่ผลก็คือ ผู้หญิงเหล่านี้ต้องตกอยู่ในห้วงแห่งความวิตกกังวลและความกลัวว่า จะตั้งครรภ์ขึ้นมาในขณะที่ยังไม่พร้อมหรือไม่ในกรณีนี้ ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน หรือ ยาคุมกำเนิดหลังการมีเพศสัมพันธ์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ที่จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์อันไม่พึงประสงค์ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ทางเลือกในการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพที่สุด จึงไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อ

   ใช้เมื่อไร

   ใช้ในเวลาฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ในกรณีที่ถูกข่มขืน ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้ป้องกัน ในกรณีที่ถุงยางอนามัยเกิดรั่วหรือแตก ซึ่งไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ควรใช้ยาคุมแบบฉุกเฉินหลังการมีเพศสัมพันธ์ทันทีภายใน 72 ชั่วโมง เพราะถ้าปล่อยเอาไว้นานกว่านั้นก็อาจจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่กำลังตกไข่ หรือช่วงกลางระหว่างรอบเดือนที่สามารถตั้งครรภ์ได้ โอกาสในการตั้งครรภ์ก็อาจสูงถึง 30%

   ประสิทธิภาพ

   ยาคุมแบบฉุกเฉินมีทั้งชนิดแบบฮอร์โมนชนิดเดียวขนาดสูงและชนิดฮอร์โมนรวม ซึ่งทั้ง 2 ชนิดมีประสิทธิภาพ สามารถลดอัตราความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 75% แต่จะได้ผลหรือไม่ได้ผลนั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ใช้ หากใช้ทันทีหลัง 72 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่น่ามีปัญหา เหมาะสำหรับผู้มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยนัก

   ผลข้างเคียง   

   เนื่องจากมีปริมาณฮอร์โมนที่ค่อนข้างสูง จึงมีผลข้างเคียงมากกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดแบบปกติทั่วไป โดยผู้ใช้อาจจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร หรือ

อาจมีอาการมีเลือดออกกะปริบกะปรอย ประจำเดือนมาผิดปกติ วิงเวียนศีรษะ และเจ็บคัดหน้าอกก็ได้  นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่า สำหรับผู้หญิงที่มีอายุเกิน 35 ปีขึ้นไปและชอบสูบบุหรี่ หรือมีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว เช่นเป็นโรคตับ โรคมะเร็ง เบาหวาน หัวใจ ความดันโลหิตสูง อาจจะมีอาการผิดปกติที่ค่อนข้างจะรุนแรงตามมาหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินก็ได้ เช่น

   - มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ตัวเหลือง ตาเหลือง

   - มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง ความดันโลหิตสูง

   - มีอาการปวดและบวมที่เท้า ขา และน่อง

   - มีอาการปวดหน้าอกอย่างรุนแรง หายใจหอบ เหนื่อยง่าย

ซึ่งหากมีอาการเหล่านี้ควรหยุดรับประทานยา และรีบไปพบแพทย์ทันที